‘โตโยต้า’ เปิดใจ! ทำไมยังต้อง ‘ไฮบริด’

‘โตโยต้า’ เปิดใจ! ทำไมยังต้อง ‘ไฮบริด’

ภาพประกอบข่าว

‘โตโยต้า’ เปิดใจ! ทำไมยังต้อง ‘ไฮบริด’

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานมอเตอร์โชว์ 2024 ที่อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ผู้บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงสถานการณ์ธุรกิจยานยนต์ โดยมี มร.โนริกาอิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ร่วมให้สัมภาษณ์

– ผลดำเนินงานของโตโยต้า และตลาดโดยรวมปีที่ผ่านมา ตลอดจนภาพรวมของตลาดรถยนต์ปีนี้

“ยอดขายของอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยในปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 770,000 คัน ลดลง 9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ช่วงครึ่งปีหลัง อุตสาหกรรมรถยนต์ไทยประสบภาวะค่อนข้างลําบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งไตรมาสที่ 4 เนื่องจากดัชนีทางด้านเศรษฐกิจ ยังไม่ค่อยดีนัก ส่งผลให้อุตสาหกรรมโดยรวมของประเทศไม่ค่อยเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดรถปิกอัพ ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มมาตรการในการปล่อยกู้เข้มงวดมากขึ้น ตลอดจนภาวะหนี้ครัวเรือนครึ่งปีหลัง ทําให้ยอดขายรถปิกอัพในปีที่ผ่านมาลดลงกว่า 30% ปีที่ผ่านมา ส่วนแบ่งการตลาดของปิกอัพของโตโยต้า อยู่ที่กว่า 40% สูงสุดตั้งแต่ปี 2011 มีส่วนแบ่งตลาดรวม อยู่ที่ 34.3% นับว่าเป็นสัดส่วนการตลาดสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2015”

‘โตโยต้า’ เปิดใจ! ทำไมยังต้อง ‘ไฮบริด’

ภาพประกอบข่าว

“สําหรับสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยปีนี้ เราเคยคาดว่า ยอดขายรวมทั้งปีน่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมาที่ระดับ 780,000 ถึง 800,000 คัน แต่เนื่องจากดัชนีของเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 4 ไม่สู้ดีนัก ตลอดจนการเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการการปล่อยกู้และปัญหาหนี้ครัวเรือน ทั้งเห็นว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพื่อฟื้นตัว จึงขอปรับลดประมาณการณ์ยอดขายตลาดรถยนต์ในประเทศไทยปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 730,000 คัน”

“สําหรับยอดขายของโตโยต้า เราตั้งเป้าหมายการขาย 250,000 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่ 34% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โตโยต้ามีส่วนแบ่งการตลาดที่ 34.3% แม้ว่าการเข้ามาของค่ายผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน และการแนะนำรถยนต์ไฟฟ้าโดยใช้แบตเตอรี่ (BEV) อาจส่งผลทำต่อการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้โดยง่าย แต่เมื่อดูตัวเลขจากเมื่อเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โตโยต้ามีส่วนแบ่งการตลาด 34.8% สูงกว่าปีที่แล้วที่ 34.3% จึงเชื่อว่าเป้าหมายดังกล่าวมีความเป็นไปได้

– ยอดขายและสัดส่วนทางตลาดของรถยนต์ไฮบริดของโตโยต้า และผลกระทบจากค่ายผู้ผลิตรถยนต์จากสัญชาติจีน

“ตั้งแต่แนะนํารถคัมรี่ รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด ในปี 2009 เราได้เพิ่มจํานวนรุ่นของรถไฮบริดเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ปลายปีที่แล้ว เราแนะนำ ยาริส ครอส รวมถึง โคโรลล่า ครอสใหม่ เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สําหรับตลาดรถไฮบริดในประเทศไทย สัดส่วนยอดขายรถ BEV ในประเทศไทยอยู่ที่ 10% ขณะที่รถไฮบริดมีสัดส่วนสูงกว่าที่ 12% ดังนั้นตลาดของรถไฮบริดน่าจะขยายตัวออกไปได้อย่างแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ยอดขายของ BEV เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพิ่มจาก 10% ไปเป็น 14% ขณะที่สัดส่วนยอดขายรถไฮบริดเพิ่มขึ้นสูงจาก 12% เมื่อปีที่แล้ว เป็น 22% ในปีนี้สำหรับยอดขายในตลาดไฮบริดของโตโยต้าเมื่อปีที่แล้ว เราจำหน่ายรถไฮบริดไปได้ประมาณ 31,000 คัน คิดเป็นประมาณ 30% ของตลาดไฮบริดโดยรวมในประเทศไทย นอกจากนี้รถยาริส ครอส เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้เสียงตอบรับจากตลาดดีมากๆ หากเราดูยอดขายรถไฮบริดในประเทศไทยเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สัดส่วนทางตลาดที่โตโยต้าทําได้สูงกว่า 40% สูงกว่าเมื่อปีที่แล้ว ข้อได้เปรียบของรถไฮบริดคือ เราไม่จําเป็นจะต้องใช้สาธารณูปโภคเพิ่มเติม ลดอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ทันที เป็นอีกหนึ่งวิธีจะนําประเทศไทยไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนได้ ดังนั้นโตโยต้าจึงมีแผนแนะนำรถรุ่นใหม่ไฮบริดออกมาเพิ่มขึ้นในอนาคต

-ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับตัวเลขยอดคาดการณ์ตลาดรวมรถยนต์ในปีนี้ที่โตโยต้าปรับลดลงเหลือ 730,000 คัน

“ถ้าดูตลาดในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะรายไตรมาสหรือว่ารายเดือนก็ตาม จะเห็นได้ว่าตลาดค่อนข้างซบเซาโดยไม่เติบโตขึ้นมากเท่าไหร่ เมื่อดูตัวเลขอัตราการเติบโตจากเมื่อปลายปีที่แล้ว ตลอดจนเดือนมกรา-กุมภาปีนี้ น่าจะเป็นไปได้ว่าในปี 2024 นี้ ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยน่าจะต่ำกว่า 730,000 คันเล็กน้อย แต่ว่าในไตรมาส 2 ตลอดจนไตรมาส 3 ปีนี้ เราน่าจะเห็นปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจต่าง ๆ เพิ่มขึ้น จากการท่องเที่ยวมาเสริม จึงเชื่อว่าครึ่งหลังของปีนี้ เศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวชัดเจนมากกว่าที่ผ่านมา ดูจากงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ เห็นค่ายรถยนต์ออกมาตรการทางการตลาดกระตุ้นยอดขายกันเต็มที่ โดยส่วนตัวอยากให้ยอดขายในประเทศไทยเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดการณ์ไว้ที่ 730,000 คันให้ได้”

-ยอดจองของ ยาริส ครอส, โตโยต้า ครอส และ ไฮลักซ์ แชมป์

“โคโรลล่า ครอสใหม่ เพิ่งเปิดรับจองเพียง 1 เดือน เราได้รับยอดจองมากกว่า 3,000 คัน ส่วน ยาริส ครอส นับตั้งแต่เปิดตัวมา 5 เดือน มียอดจองสะสมกว่า 25,000 คัน หรือเดือนละประมาณ 5,000 คัน ถือว่าทำยอดขายได้ดี ไฮลักซ์แชมป์ เปิดจองมา 3 เดือน ได้ยอดจองกว่า 5,000 คัน ถือว่าประสบความสำเร็จเช่นกัน ยอดจองของรถทั้ง 3 รุ่น ถือว่าเข้าเป้า หรือเหนือกว่าเป้าที่ตั้งไว้ จึงคิดว่ายอดขายของรถทั้ง 3 รุ่นน่าจะไปได้ดีเรื่อย ๆ ในปีนี้”

-ผลกระทบจากสงครามราคาและมาตรการเพื่อรับมือ

“หากเราแข่งขันด้านราคากันรุนแรงเกินไป จะส่งผลต่อราคาขายต่อของรถยนต์โดยรวม ส่งผลต่อความรู้สึกของลูกค้าเพิ่งซื้อรถรุ่นนั้นไปด้วย เราจึงจำเป็นต้องพิจารณาข้อดีข้อเสียอย่างระมัดระวัง โตโยต้าให้ความสำคัญกับ แวลู เชน (Value Chain) คือคุณค่าตลอดห่วงโซ่การใช้งานของรถยนต์ของเรา ไม่ว่าลูกค้าจะซื้อรถโตโยต้าไปเมื่อใด เรามุ่งสร้างความสุข และรอยยิ้มให้ลูกค้าทุกคน ปีนี้โตโยต้าแนะนำแคมเปญและข้อเสนอเพื่อกระตุ้นยอดขายต่างๆ เพื่อมุ่งบรรลุเป้าหมายส่วนแบ่งทางการตลาด เราจะพิจารณากลยุทธ์ระยะกลางกับระยะยาวอย่างรอบคอบ พิจารณาถึงลูกค้าเป็นสำคัญ

-เป้ายอดจองในงานมอเตอร์โชว์ และความมั่นใจจะรักษายอดขายอันดับหนึ่ง

“ที่ผ่านมาโตโยต้ามียอดจองสูงสุดแทบจะทุกครั้ง ด้วยสัดส่วนประมาณ 14% ถึง 15% สําหรับเป้ายอดจองของมอเตอร์โชว์ปีนี้ก็เช่นกัน เรายังคงต้องการรักษาส่วนแบ่งดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นเราจึงแนะนำมาตรการส่งเสริมการขาย เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจจองกับเราได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรการ อีซี่ โลน และ PHYD Campaign, Deferred Payment เรายังให้วางเงินดาวน์ได้ด้วยเครดิตการ์ด เพื่อช่วยให้ยอดจองภายในงานเป็นไปตามเป้าหมาย เราขอเน้นว่ารถโตโยต้าแม้ว่าจะใช้งานแล้ว ก็มีมูลค่าการขายต่อมักจะสูงกว่าแบรนด์อื่น เรามีโปรโมชั่นการเทรด-อินรถ เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อรถคันใหม่ได้ง่ายขึ้น นำมาสนับสนุนในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ด้วยเช่นกัน เรามีแคมเปญจับสลากสําหรับลูกค้าจองและออกรถในงานด้วย”

-ความคิดเห็นต่อการแนะนำรถ BEV รุ่นใหม่ และส่วนแบ่งการตลาดของผู้ผลิตสัญชาติจีนกำลังเพิ่มขึ้น ตลอดจนความกังวลใจของโตโยต้า

“กลยุทธ์ Multi Pathway ของโตโยต้า คือการมุ่งนำเสนอทางเลือกหลากหลายสำหรับลูกค้าที่ต้องการแตกต่างกัน เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้รถตรงกับความต้องการของตนองมากที่สุด Multi Pathway เป็นนโยบายของโตโยต้าทั่วโลก เราจะดูลักษณะจําเพาะของแต่ละประเทศและแต่ละตลาด ตลอดจึงความเป็นไปได้ในอนาคต แล้วจึงนําเสนอทางเลือกเหมาะสมให้ได้มากที่สุด การที่เราเลือกว่าเทคโนโลยีใดเหมาะกับประเทศไหน มีปัจจัยพิจารณาทั้งหมด 3 ข้อด้วยกัน ปัจจัยแรกก็คือตัวลูกค้าว่าลูกค้าแนวโน้มจะซื้อรถเทคโนโลยีอะไร จําเป็นต้องดูจากสภาพทางเศรษฐกิจ ณ ขณะนั้น และสภาพการใช้งานจริงของลูกค้าด้วย ปัจจัยที่สองคือภาระต่อสิ่งแวดล้อม จําเป็นต้องดูด้วยว่าแต่ละประเทศตอนนี้มีโครงสร้างทางพลังงานอย่างไร เทคโนโลยีช่วยลดภาระต่อสิ่งแวดล้อมในแต่ละประเทศได้เหมาะสมที่สุด ปัจจัยที่สามคือเราจะช่วยเหลือเศรษฐกิจของแต่ละประเทศได้อย่างไร อย่างที่ทราบกันดี ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์ก็คิดเป็นสัดส่วนจีดีพีสูงถึง 12% ของประเทศไทย หากพิจารณาปัจจัย 3 ข้อนี้แล้ว แน่นอนว่ารถ BEV ถือเป็นเทคโนโลยีที่สําคัญมากสำหรับอนาคต เรานิ่งเฉยไม่ได้แน่นอน”

“แต่ในส่วนของรถBEV การใช้งานจริงขึ้นอยู่กับสาธารณูปโภคก็คือสถานีชาร์จว่าทุกคนจะเข้าถึงได้จริงหรือไม่ อีกส่วนหนึ่งคือความประหยัดโดยรวมสําหรับลูกค้า หากลูกค้าชาร์จช่วงกลางดึก ค่าไฟต่ำได้ อาจจะประหยัด แต่ถ้าไม่สามารถทําได้ อาจไม่ประหยัดจริง รวมถึงเมื่อพิจารณาราคาขายต่อ ตลอดจนความประหยัดระยะยาว อาจแตกต่างกันไปแต่ละคน ต้องคํานึงถึงปัจจัยหลากหลายนี้เช่นกัน ส่วนของภาระต่อสิ่งแวดล้อม หากพิจารณาการลด CO2 แบบ Tank to Wheel การผลิตพลังงานภายในรถ BEV อาจจะปล่อยคาร์บอนออกมาเป็นศูนย์จริง แต่ถ้าพิจารณาแบบ Well to Wheel คือ แหล่งไฟฟ้าเอามาชาร์จ BEV อย่างประเทศไทยยังผลิตจากถ่านหินและก๊าซธรรมชาติอยู่เป็นหลัก เพราะฉะนั้นปริมาณ CO2 ปล่อยออกมา เมื่อเทียบกับปริมาณการปล่อย CO2 ของรถทั่วไปหรือรถไฮบริดแล้ว อาจไม่ได้ต่างกันมาก ต้องคํานึงถึงจุดนี้ด้วย”

“ปัจจัยที่ 3 คือ BEV จะส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างไร BEV ส่วนใหญ่จําหน่ายในไทยตอนนี้เป็นรถนําเข้า 100% อาจไม่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศ ณ ปัจจุบันนี้ได้มากนัก สำหรับโตโยต้าเอง หากจะผลิต BEV ในประเทศไทย เราจำเป็นต้องมียอดผลิตสูงและคุ้มค่าด้านต้นทุน อย่างรถไฮลักซ์ในปัจจุบันมีอัตราส่วนชิ้นส่วนผลิตในประเทศถึง 90% หากเราต้องการให้ BEV มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทย เราจําเป็นต้องพิจารณาระยะเวลาและความเหมาะสมด้วย”

“หากพิจารณาเฉพาะในประเทศไทยตอนนี้ อัตราการแพร่หลายของรถ BEV ดูค่อนข้างสูงและรวดเร็วมาก แต่ถ้าเรามองตลาดอาเซียนโดยรวม ยอดขายรถไฟฟ้าในประเทศอื่น ๆ ภายในอาเซียนอาจยังไม่ได้สูงขนาดนั้น จึงต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ในการผลิตในประเทศไทยแล้วส่งออกในภูมิภาคอาเซียน ตอนนี้จึงอาจจะยังไม่ใช่ช่วงเวลาเหมาะสมเท่าใดนัก อย่างไรก็ตาม โตโยต้าก็น้อมรับนโยบายของประเทศไทยอยากจะมีสัดส่วนการใช้รถ BEV ให้ได้ 30% ภายในปี 2030 จะขยายเทคโนโลยีการผลิตแบบ Step-by-step เรามีแผนเป็นรูปธรรมระยะสั้น คือ แผนผลิตรถไฮลักซ์ BEV พร้อมจะส่งมอบให้เทศบาลเมืองพัทยา เพื่อใช้เป็นรถสองแถวแบบทดสอบ 12 คันวันที่ 25 เมษายนนี้ จะมีพิธีส่งมอบกันที่พัทยา”

“นอกจากนี้ เรายังมีแผนผลิตรถไฮลักซ์ BEV แบบ แมส โปรดักชั่น (mass production) ภายในปลายปี 2025 ด้วย หลังจากนี้เป็นต้นไป โตโยต้าจะผลิตรถ BEV เป็นรถยนต์โดยสารทั่วไปในประเทศไทยในอนาคต แต่สําหรับรถไฮบริดมีข้อได้เปรียบ เนื่องจากไม่จําเป็นจะต้องเพิ่มสาธารณูปโภคอะไร ทุกคนสามารถใช้งานได้ทันที ด้านความประหยัดเองก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของลูกค้าบางคนมีวิธีการใช้งานแบบหนึ่ง ใช้ไฮบริดก็อาจประหยัดกว่า BEV ก็ได้ แต่ว่าถ้าเกิดใช้งานอีกแบบนึง BEV ก็อาจจะประหยัดกว่าไฮบริด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การใช้งาน แต่ถ้าเรื่องการช่วยเหลือเศรษฐกิจของประเทศไทย มีซัพพลายเออร์ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไปประเทศไทยจํานวนมาก สามารถใช้การผลิตในปัจจุบัน ผลิตชิ้นส่วนสําหรับรถไฮบริดได้เป็นการช่วยเหลือซัพพลายเออร์เหล่านี้ต่อไป หากเราดูสภาพการณ์ของประเทศเพื่อนบ้านของไทย จะเห็นว่าความนิยมในรถไฮบริดมากกว่ารถ BEV ณ ขณะนี้ ดังนั้นรถไฮบริดจึงยังมีข้อได้เปรียบด้านการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอยู่ สำหรับนโยบายด้านไฮบริดของโตโยต้า อย่างที่เราเปิดตัวรถโคโรลล่าครอสรุ่นไฮบริดไปเมื่อไม่นานมานี้ เราอยากจะให้รถยนต์รุ่นหลักของโตโยต้ามีออปชั่นเป็นไฮบริดให้ครบทุกรุ่นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

-ขณะนี้ ความนิยมของรถ BEV หรือรถไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ในหลายตลาดทั่วโลกค่อนข้างจะลดลงเมื่อเทียบกับรถไฮบริด กลายเป็นว่ารถไฮบริดกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้น คิดว่าประเทศไทยจะมีปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกันหรือไม่

“เมื่อปีที่แล้ว รถ BEV ได้รับความนิยมสูง มีอัตราการเติบโตสูงมากมีปัจจัยสำคัญ คือสิทธิประโยชน์ โดยรัฐบาลไทย ป็นนโยบายสิทธิประโยชน์สําหรับรถนําเข้า 100% จะสิ้นสุดในปี 2025 ส่วนสำหรับรถมาประกอบหรือผลิตในประเทศไทยจะสิ้นสุดในปี 2027 แต่เหตุผลที่ในหลายประเทศ ความนิยมของรถ BEV ลดลงก็เป็นเพราะเทคโนโลยียังก้าวล้ำไปไม่ทันกับความคาดหวังและความต้องการใช้งานจริงของผู้คน โดยความสามารถใช้งานรถได้จริงกับความประหยัดเป็นปัจจัยที่สําคัญมาก สำหรับการใช้งานได้จริง ขึ้นอยู่กับความรวดเร็วของการพัฒนาสาธารณูปโภคในแต่ละประเทศ ว่าจะรองรับการใช้งานจริงได้หรือไม่ และสำหรับความประหยัดคุ้มค่า ปัจจุบัน ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนต่างพากันลดราคา เพื่อแข่งขันอย่างดุเดือด แต่ว่าในท้ายที่สุดแล้ว นโยบายที่ว่าจะเป็นการช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดจริง ๆ ในระยะยาวหรือเปล่าก็เป็นเรื่องที่จําเป็นจะต้องดูกันต่อไปอย่างไรก็ตาม การที่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนดําเนินการเรื่องต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม”

“โตโยต้ายังมุ่งสร้างสรรค์ทางเลือกดีที่สุดสําหรับลูกค้าทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น การใช้งานได้จริง ความประหยัด ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศชาติอย่างแท้จริง ตามที่โตโยต้าระบุว่าจะผลิตรถไฮลักซ์ BEV แบบ mass production ภายในปี 2025 จึงขอทราบศักยภาพในการทําตลาดของรถปิกอัพ BEV ในประเทศไทย และความคิดเห็นต่อการที่ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่ประกาศออกมาว่าจะนํารถปิกอัพที่เป็น BEV มาจำหน่ายในประเทศไทย ในงานมอเตอร์โชว์ 2024 ครั้งนี้ อย่างที่ทุกคนทราบว่า รถปิกอัพเป็นรถที่มีสัดส่วนยอดขาย 40 ถึง 50% ของยอดขายรวม มีการนําไปใช้งานกันจริง ตลอดจนมีความสําคัญของเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก แต่หากพิจารณาสองปัจจัยด้านภาระของสิ่งแวดล้อม อาจเป็นเรื่องยากจะลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ แต่เราจําเป็นต้องพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว เพราะประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการส่งออกสำคัญของภูมิภาคนี้”

“ด้านประหยัดคุ้มค่าและการใช้งานจริง ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา ปัจจุบัน เราจะไม่พร้อมผลิตแบบ mass production ได้โดยทันที เราจะจําหน่ายภายในสิ้นปี 2025 พร้อมกับพิจารณาเทคโนโลยีทางเลือกอื่นๆ ที่เป็นไปได้ รวมถึงไฮบริดและพลังงานไฮโดรเจนด้วย ส่วนเรื่องที่ว่ารถปิกอัพ BEV จะจำหน่ายได้หรือไม่ เป็นอีกประเด็นหนึ่ง แต่สำหรับคุณค่าที่รถประเภทนี้จะให้กับตัวลูกค้าได้ ไม่ว่าจะในส่วนของการใช้งานจริงหรือการประหยัดจริง ก็เป็นเรื่องที่จําเป็นต้องพิสูจน์กันต่อไป การจะแนะนำรถปิกอัพ BEV ให้ได้สำเร็จ จำเป็นจะต้องให้ลูกค้าพิสูจน์ก่อนว่า เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซลในปัจจุบันแล้ว มีข้อได้เปรียบอย่างไรบ้าง รถปิกอัพเป็นรถมหาชนของประเทศไทย เป็นรถที่อยู่ในใจของผู้คน และเป็นรถที่คนไทยใช้ทํามาหากิน เพราะฉะนั้น จึงต้องพิจารณาว่า จะทําอย่างไรให้ผลิตภัณฑ์รถกระบะ BEV ที่ใช้งาน และลดภาระต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังช่วยสนับสนุนประเทศไทยได้จริง”

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ‘โตโยต้า’ เปิดใจ! ทำไมยังต้อง ‘ไฮบริด’

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

– Website : https://www.matichon.co.th

News Related
  • สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน

    Courtesy of ByteDance https://assets.beartai.com/uploads/speaker/post-1334883.mp3?cb=1701136108.mp3 สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า ByteDance บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยมอย่าง TikTok สั่งปลดพนักงานในแผนกเกมออกราว 1,000 คน พร้อมยกเลิกการพัฒนาเกมที่ยังไม่ได้เปิดตัวทั้งหมด และเตรียมขายเกมที่มีอยู่ในปัจจุบันให้บริษัทอื่นด้วย แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ByteDance มองว่าธุรกิจเกมไม่ได้สำคัญมากนักและมีโอกาสที่จำกัดในการสร้างรายได้ บริษัทจึงเลือกที่จะทุ่มเทกับธุรกิจหลักมากกว่า เช่น TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่พ่วงมากับอีคอมเมิร์ซ ซึ่งกำลังประสบความสำเร็จอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งนี้ ByteDance เคยมีความทะเยอทะยานอย่างมากกับธุรกิจเกม และต้องการต่อกรกับยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent Holdings บริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อพิจารณาจากรายได้ โดย ByteDance ได้ลงทุนอย่างจริงจังในธุรกิจเกมมาตั้งแต่ปี 2016 และในระหว่างปี 2019 ถึงปี 2022 พวกเขาทุ่มเงินมากถึง 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 151,200 ล้านบาท เพื่อลงทุนในบริษัทเกมมากกว่า 19 แห่ง ความทะเยอทะยานของ ByteDance ค่อย ๆ ลดลงจากผลงานที่น่าผิดหวัง ...
    See Details: สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน
  • สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก

    สุภโชค สารชาติ เจลีก ลีกฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขัน เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 ได้ประกาศโปรแกรมการแข่งขันในปีนี้ออกมาแล้ว สำหรับปีนี้จะใช้ชื่อเต็มว่า ไทยประกันชีวิต เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 พาวเวอร์ดบาย เมจิ ยาสึดะ หลังได้ ไทยประกันชีวิต เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักอีกทั้งยังได้เซ็นข้อตกลงกับบริษัท นิคอน คอร์เปอเรชั่น ในฐานะ “บรอนซ์ พาร์ทเนอร์” ด้วย เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 จะมี 4 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันประกอบด้วย 2 ทีมไทยลีก เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ส่วนทีมจากเจลีก ประกอบด้วย ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร และ เซเรโซ ...
    See Details: สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก
  • ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4

    ภาพประกอบข่าว ครม. เคาะกฎกระทรวงขยายเวลาให้สถานบริการที่ตั้งในโรงแรมถูกกฎหมาย สถานบริการที่ตั้งใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย ได้ถึง 4.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 พ.ย. 2566 ได้อนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่….) พ.ศ… ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงฯ จะกำหนดให้สถานบริการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ดังต่อไปนี้เปิดให้บริการได้ถึงเวลา 4.00 น. ของวันรุ่งขึ้นได้ ได้แก่ สถานบริการที่ตั้งที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม, สถานบริการที่ตั้งอยู่ในท้องที่กรุงเทพมหานคร, จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดชลบุรี, จังหวัดเชียงใหม่ และท้องที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาพประกอบข่าว สำหรับท้องที่อื่นที่ประสงค์จะให้สถานบริการเปิดทำการได้ถึง 4.00 ...
    See Details: ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4
  • อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา

    Elon_Musk_Plan_City_Cover https://assets.beartai.com/uploads/speaker/post-1334745.mp3?cb=1701136565.mp3 วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน อิสราเอลได้ต้อนรับการมาเยือนของ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ในระหว่างที่หยุดทำสงครามกับฮามาสเป็นการชั่วคราว ซึ่งได้บรรลุข้อตกลงในหลักการสำหรับการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ในฉนวนกาซา หลังจากมัสก์รับปากว่าจะให้การช่วยเหลือการเชื่อมต่อเน็ตในฉนวนกาซาผ่าน “องค์กรช่วยเหลือที่สากลยอมรับ” ในช่วงที่อิสราเอลเริ่มถล่มฉนวนกาซาอย่างหนักจนการสื่อสารถูกตัดขาดลง ช่วงบ่ายของวันจันทร์ ไอแซค เฮอร์ซอก (Isaac Herzog) ประธานาธิบดีของอิสราเอลมีกำหนดจะพูดคุยกับมัสก์ และพวกเขาจะเข้าร่วมพูดคุยกับญาติของตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาจับตัวไว้ เพื่อหาทางต่อสู้กับการต่อต้านชาวยิวที่เพิ่มขึ้นบนโลกออนไลน์ ในวันเดียวกัน เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล มีกำหนดหารือกับมัสก์เกี่ยวกับความปลอดภัยของเอไอ และจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันผ่านการถ่ายทอดสดออนไลน์ หลังจากทั้งสองพึ่งพบกันล่าสุดในแคลิฟอร์เนียเมื่อ 18 กันยายน เกี่ยวกับการต่อต้านชาวยิวบนแพลตฟอร์ม X และหาจุดสมดุลของเสรีภาพในการแสดงออก ปลายเดือนตุลาคม ช่วงที่มัสก์เผยว่าจะมอบเน็ตสตาร์ลิงก์ให้ใช้งานในฉนวนกาซา ชโลโม คาร์ฮี (Shlomo Karhi) กสทช. ของอิสราเอลได้แสดงความไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ากลุ่มฮามาสจะนำเน็ตไปใช้ในการก่อการร้าย แต่การพูดคุยล่าสุดเน็ตสตาร์ลิงก์จะถูกใช้ในอิสราเอลเฉพาะเมื่อได้รับอนุมัติจากกระทรวงคมนาคมของอิสราเอล ซึ่งรวมถึงในฉนวนกาซาด้วย ...
    See Details: อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา
  • 'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ

    ‘ไบท์แดนซ์’ จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก ‘เทนเซ็นต์’ ไม่สำเร็จ สำนักข่าวบลูมเบิร์กอ้างอิงแหล่งข่าวเผยว่า ไบท์แดนซ์ บริษัทแม่ติ๊กต็อกวางแผนปลดพนักงานฝ่ายเกมมิงและยุบธุรกิจพัฒนาเกมที่เป็นหน้าเป็นหน้าของบริษัทอย่าง Nuverse ถือเป็นการถอนตัวออกจากอุตสาหกรรมเกมครั้งใหญ่ ยกชัยชนะให้กับคู่แข่งอย่างเทนเซ็นต์ทันที แหล่งข่าวระบุว่า ไบท์แดนซ์ เตรียมปลดพนักงานหลายร้อยคน รวมทั้งยุบหลายโครงการที่กำลังพัฒนาและฉุดศักยภาพยอดขายของธุรกิจที่มีอยู่ ตามที่รอยเตอร์เคยรายงานหน้านี้ บริษัทยังพิจารณาขายเซี่ยงไฮ้ มูนตัน เทคโนโลยี สตูดิโอพัฒนาวิดีโอเกมชั้นนำที่ซื้อมาด้วยมูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์ (1.4 แสนบาท) เมื่อปี 2564 ด้วย การสร้างเกม ถือเป็นธุรกิจที่มีความไม่แน่นอนเป็นอย่างมาก โดยนับตั้งแต่ปีก่อน ไบท์แดนซ์เริ่มปิดสตูดิโอของตนเองและปลอดพนักงานฝ่ายพัฒนาหลายคน หลังเปลี่ยนไปโฟกัสธุรกิจหลักอย่างติ๊กต็อก แพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ๆ และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และเดือนนี้ก็ปลดพนักงานเกือบ 1 ใน 4 ของฝ่ายพิโค (Pico) ธุรกิจอุปกรณ์โลกเสมือน ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ภาคธุรกิจเกมในโทรศัพท์มือถือของจีน ประสบปัญหาฟื้นธุรกิจให้ถึงจุดสูงสุดเหมือนช่วงโควิด-19 ในขณะที่เศรษฐกิจโลกชอละตัว ไบท์แดนซ์จึงค่อย ๆ ลดความทะเยอทะยานในอุตสาหกรรมเกม เมื่อไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเทนเซ็นต์ได้ ในทางกลับกันผู้นำอุตสาหกรรมเกมอย่างเทนเซ็นต์ ยังคงรักษาการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน เพราะได้รับแรงหนุนจากเครดิตผู้นำอุตสาหกรรม ...
    See Details: 'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ
  • TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น

    ภาพประกอบข่าว TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ชี้เศรษฐกิจโลกปี 2567 จะโตแบบชะลอตัวเมื่อเทียบกับปี 2566 ผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดในรอบหลายทศวรรษ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยยังทรงตัวในระดับสูง แต่ไม่เลวร้ายถึงขั้น “เศรษฐกิจถดถอย”  แนะลงทุนพันธบัตรเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน 8-15% ช่วยกระจายความเสี่ยงและลดผลขาดทุนของพอร์ตโดยรวม นายธรรมรัตน์ กิตติสิริพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) (Mr.Thammarat Kittisiripat, Head of Economic Unit, TISCO Economic Strategy Unit) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2567 จะชะลอตัวลง อันเป็นผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่จะส่งผลกดดันต่อกิจกรรมเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ทั้งกิจกรรมด้านบริการและภาคการผลิต นอกจากนี้ ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลางต่างๆ และมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลดลงอย่างช้าๆ ทำให้ TISCO ESU ประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกในปี 2567 จะยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะธนาคารกลางจะต้องควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวแต่ยังให้น้ำหนักไม่มาก ที่จะเข้าสู่ “ภาวะถดถอย” โดยหากอ้างอิงจากการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มองว่าเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มที่ “พัฒนาแล้ว” จะชะลอตัวลงต่อเนื่อง ...
    See Details: TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น
  • “นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน

    นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์  ผู้แทนการค้าไทย หารือผู้แทนสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ไทย และตัวแทนบริษัทส่งออกผลไม้ไทย เพื่อร่วมมือผลักดันการส่งออกโคและผลไม้ไทยไปจีน ผู้แทนการค้ากล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การส่งออกเดือน ต.ค.2566 มีมูลค่า 23,578.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8% เป็นบวกต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อกัน และสูงสุดในรอบ 13 เดือน นับจากเดือนก.ย.2565 ซึ่งการส่งออกที่เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร 9.3% โดยสินค้าเกษตร เพิ่ม 12.3% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 5.9% สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง อาหารสุนัขและแมว ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง สิ่งปรุงรสอาหาร ผักกระป๋องและผักแปรรูป ผู้แทนการค้ากล่าวว่า สินค้าเกษตรจึงเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของไทย จากการหารือกับสมาคมผู้ส่งออกฯ ที่ผ่านมาประเทศไทยติดปัญหาการส่งออกโคมีชีวิตไปยังประเทศจีน ซึ่งต้องให้ผ่านการรับรองจาก ...
    See Details: “นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน
  • มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน
  • น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)
  • เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล
  • กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา
  • SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร
  • สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด

OTHER NEWS

ถ้าไม่ไหวไปที่อื่น ! ไข่มุกหลงกล้อง-ทศกัณฐ์เดดแอร์ ศึกแข่งผู้ประกาศข่าวสุดเดือด!

ถ้าไม่ไหวไปที่อื่น ! ไข่มุกหลงกล้อง-ทศกัณฐ์เดดแอร์ ศึกแข่งผู้ประกาศข่าวสุดเดือด! รอบ Real Chance กับโจทย์ผู้ประกาศข่าวเที่ยงอมรินทร์ เดือดสุด !! เพราะเป็นรอบที่น้องๆ ทีมสีส้ม “ไข่มุก-ชาโอม-จอย” และทีมสีม่วง “ฟิว-ทศกัณฐ์-ปอนด์” ต้องมานั่งโต๊ะเป็นผู้ประกาศข่าวจริงๆ รอบ Real Chance กับโจทย์ผู้ประกาศข่าวเที่ยงอมรินทร์ ใน THE REAL NEXT GEN อมรินทร์เน็กซ์เจน Presented By est cola รายการเรียลลิตี้ ... Read more »

นายกฯ เผย ครม.เคาะขึ้นเงินเดือน ขรก.แล้ว รอฟังโฆษกแถลงได้เลย

ภาพประกอบข่าว นายกฯ เผย ครม.พิจารณาวาระขึ้นเงินเดือนแล้ว ให้โฆษก รบ.แถลง พร้อมเรียก รมต.เพื่อไทยถกต่อ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในวันนี้ที่ประชุม ครม.ได้มีการพิจารณาวาระการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ซึ่งมอบหมายให้โฆษกประจำสำนักนายกฯเป็นผู้แถลง ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังนายกฯเป็นประธานการประชุม ครม.ชุดใหญ่แล้ว นายกฯได้เชิญรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.) ... Read more »

ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ‘เด่นนาโพธิ์’ ตะลึงว่าจ้างตัวเอง ‘ล้มมวย’!

ภาพประกอบข่าว ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ‘เด่นนาโพธิ์’ ตะลึงว่าจ้างตัวเอง ‘ล้มมวย’! จากรกรณีที่ เด่นนาโพธิ์ ส.ธัญญาลักษณ์ นักมวยไทย ขึ้นชกกับ ก้องนภา ศรีมงคล เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ที่เวทีมวยวัดบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยการชกครั้งนี้ เด่นนาโพธิ์ แพ้น็อกไปอย่างกังขาในยกที่ 3 ทั้งที่ เด่นนาโพธิ์ เป็นฝ่ายฟันศอก ก้องนภา ... Read more »

พีพี วอนแฟนคลับไม่รุกล้ำเวลาส่วนตัว อยากเจอกันแบบสบายใจ

พีพี วอนแฟนคลับไม่รุกล้ำเวลาส่วนตัว อยากเจอกันแบบสบายใจ ก่อนแง้มข่าวดีกลางปีหน้า แม้ว่าก่อนหน้านี้ บริษัท PP Krit Entertainment ของศิลปินนักแสดงชื่อดัง พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ได้ออกหนังสือชี้แจงมาตรการด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของศิลปิน หลังมีบุคคลบางกลุ่มพยายามละเมิดความเป็นส่วนตัว แต่ดูเหมือนว่ายังคงมีหลายคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎดังกล่าว จนเป็นเหตุให้คนใกล้ชิดต้องออกมาพูดเตือนสติเรื่องนี้อีกครั้งผ่านทางโซเชียล ล่าสุดเจอ พีพี ในงาน centralwOrld Light Up Christmas Tree Celebration ที่ ลานสแควร์A หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ว่า ... Read more »

สมยศ เผยเซ็นสัญญา"อิชิอิ"คุมบอลไทยระยะสั้นแค่ช่วงวาระชุดบริหารปัจจุบัน

สมยศ เผยเซ็นสัญญา”อิชิอิ”คุมบอลไทยระยะสั้นแค่ช่วงวาระชุดบริหารปัจจุบัน จากกรณี “มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ประกาศอย่างเป็นทางการแยกทาง มาโน่ โพลกิ้ง จากหัวหน้าผู้ฝึกสอน หลังผลงานคัดบอลโลก 2 นัดแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชชาวญี่ปุ่น อดีตกุนซือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ แทนทันที ล่าสุด “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เผยว่าเรื่องการเลือกโค้ช เราให้เกียรติซึ่งกันและกัน มาดามแป้ง ... Read more »

ปุ้ย TPN อัปเดต มิสยูนิเวิร์ส 2023 หลังรัฐบาลนิการากัว สั่งห้ามเข้าประเทศ

หลังจากจบการประกวด Miss Universe 2023 แต่งานนี้ก็ยังมีเรื่องให้ ปุ้ย ปิยาภรณ์ หรือที่แฟนนางงามรู้จักในชื่อ ปุ้ย TPN ต้องมาชี้แจงหลายประเด็นที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่ Miss Universe คนล่าสุดเข้าประเทศไม่ได้ หรือประเด็นที่บริษัท TCG จะฟ้อง JKN ซึ่ง JKN เป็นบริษัทแม่ และ TPN เป็นบริษัทลูก จะโดนร่างแหไปด้วยหรือไม่ งานนี้เจ้าตัวก็ได้ตอบแบบเคลียร์ว่า “ข่าวที่ว่ามิสยูนิเวิร์สเขาเข้าประเทศไม่ได้น่ะเหรอ นี่ก็ได้คุยกับ ND ... Read more »

เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งแจ๊ซเมาพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ

เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งแจ๊ซเมาพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งรถแจ๊ซเมาหนักเดินเซขึ้นรถตำรวจ หลังจากพยายามขับรถพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ แถมไม่สลดในมือยังถือกระป๋องเบียร์ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 น. ตำรวจ สน.ท่าพระ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ เฉี่ยวชนกันจนเกิดพลิกคว่ำ บริเวณอุโมงค์ท่าพระ มุ่งหน้าจาก ถนน จรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าถนน รัชดาท่าพระ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณเชิงลาดขาลงทางลอดอุโมงข้ามแยกใต้แยกท่าพระ ทิศทางมุ่งหน้ามาจากถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าไปทางถนน รัชดาท่าพระ แขวง วัดท่าพระ เขต บางกอกใหญ่ ... Read more »
Top List in the World