วันผู้สูงอายุแห่งชาติ 13 เมษายน 2567 คนแก่ไทยอยู่รอดต้องมีเก็บเงิน 4.3 ล้าน

วันผู้สูงอายุแห่งชาติ 13 เมษายน 2567 คนแก่ไทยอยู่รอดต้องมีเก็บเงิน 4.3 ล้าน

วันผู้สูงอายุแห่งชาติ 13 เมษายน 2567 คนแก่ไทยอยู่รอดต้องมีเก็บเงิน 4.3 ล้าน

วันที่ 13 เมษายน 2567 นอกจากจะเป็นวันแรกของเทศกาลวันสงกรานต์ แล้ว ยังมีความสำคัญเป็น “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” ของประเทศไทย โดยปัจจุบันโครงสร้างประชากรไทย ได้เข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

จากข้อมูลของ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เมื่อเดือน มกราคม 2567 ระบุว่า คนไทยที่อายุมากกว่า 60 ปี มีด้วยกันทั้งสิ้น 13.2 ล้านคนคิดเป็น 20% ของประชากรทั้งหมด

ขณะเดียวกันยังประเมินสถานการณ์ในอนาคตว่า หลังจากในปี 2562 สัดส่วนประชากร วัยเด็กและผู้สูงอายุ มีสัดส่วนเท่ากัน อยู่ที่ประมาณ 17% แต่ทิศทางในปี 2580 วัยเด็กจะมีสัดส่วนลดลงเหลือ 14.3% แต่ผู้สูงอายุ กลับเพิ่มขึ้นถึง 29.85% โดยที่อัตราเร่งของกลุ่มผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น สูงกว่าวัยเด็กและวัยแรงงานที่ลดลงด้วย

คนไทยขาความมั่นคงการเงินหลังเกษียณ

อีกข้อมูลที่น่าสนใจ คือ ประเด็นด้านการเงินของกลุ่มผู้สูงอายุ สศช. ได้จัดทำรายงานแผนพัฒนาประชากรเพื่อการพัฒนาประเทศระยะยาว (พ.ศ. 2565 – 2580) ระบุว่า คนไทยยังมีปัญหาการไม่มีความมั่นคงทางการเงินภายหลังการเกษียณ

แม้ผลการสํารวจพฤติกรรมทางด้านการเงินด้านการออมของ คนไทยในปี 2563 พบว่า คนไทยมีทักษะทางการเงิน อยู่ที่ 71% เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2559 ซึ่งอยู่ที่ 61% และมีทักษะทางการเงินทั้ง 3 ด้านสูงกว่าค่าเฉลี่ย OECD เป็นปีแรก แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องการออมนั้น พบว่า แม้ว่าจะมีความตระหนักเรื่องการออมสูงขึ้น แต่จำนวนคนที่สามารถออมได้ตามแผนที่ตั้งไว้มีเพียง 17.8% ลดลงจาก ปี 2561 (18.6%)

ทั้งนี้ พบว่า เจเนอเรชัน Baby Boomer เป็นกลุ่มที่ออมมากที่สุด อีกทั้งประชาชนทั่วไปยังมีการเข้าสู่ระบบหลักประกันและระบบการออมค่อนข้างน้อย โดยเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพียง 2.4 ล้านคน (ณ พฤษภาคม 2564)

หากพิจารณากลุ่มประชากรที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท ทั่วประเทศ พบว่า ปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญของการไม่มีเงินออม คือ 52.3% รายได้ไม่พอเหลือไว้ออม 24.2% มีเหตุจำเป็นต้องใช้เงิน และ 18.6% มีภาระหนี้สิน

ขณะที่จำนวนหนี้สินครัวเรือนทั่วประเทศมีทิศทางปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มวัยเริ่มทำงาน (ช่วงอายุ 25 – 35 ปี) มีแนวโน้มเป็นหนี้เร็วขึ้น และคุณภาพหนี้มีแนวโน้มด้อยลง โดยกว่าครึ่งหนึ่งมีหนี้จากสินเชื่ออุปโภคบริโภคและหนี้บัตรเครดิต ซึ่งลูกหนี้ในกลุ่มนี้มีสัดส่วนการเป็นหนี้เสียสูง ถึง 1 ใน 5

คนไทยขาดทักษะทางการเงิน

การมีรายได้ไม่เพียงพอ การมีภาระหนี้สิน และการขาดทักษะทางการเงิน ล้วนเป็นอุปสรรคทางด้านการออมของคนไทย และมีแนวโน้มที่ทำให้คนไทยเลือกที่จะออมเพื่อใช้ยามฉุกเฉินมากกว่าการออมในระยะยาวเพื่อการใช้ชีวิตหลังจาก เกษียณอายุ

นอกจากนี้ อัตราการสมทบหรือมาตรการช่วย เหลือแบบให้เปล่าจากภาครัฐยังไม่สามารถนำไปสู่จำนวนเงินที่เพียงพอเพื่อไว้ใช้ยามเกษียณได้ จากข้อมูลของ OECD ในปี 2018 พบว่า ประเทศไทยมีอัตราการทดแทนรายได้หลังเกษียณที่ 37.5% (ค่าเฉลี่ยของ OECD อยู่ที่ 52%)

สอดคล้องกับการศึกษาของ Deloitte & Touche Consulting Group ภายใต้การดำเนินการของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังที่ระบุระดับรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงชีพหลังเกษียณ โดยอัตราทดแทนรายได้หลังเกษียณ (Replacement Rate) ของไทยควรอยู่ที่ 50 – 60%

ทั้งนี้หากพิจารณารายได้หลังเกษียณในหลักประกันประเภทต่าง ๆ จะพบว่ามีเพียงข้าราชการที่จะมีรายได้เพียงพอที่ 50 – 70% ของเงินเดือนเดือนสุดท้ายเท่านั้น อีกทั้งปัจจุบันยังไม่มีระบบ การออมภาคบังคับสำหรับกลุ่มแรงงานนอกระบบซึ่งมีสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง ส่งผลให้คนไทยหลายคนยังไม่มีหลักประกัน ด้านรายได้

ผู้สูงอายุกว่า 1 ใน 3 มีฐานะยากจน 

ในปี 2564 ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ยังคงทำงานมีประมาณ 1 ใน 3 โดยเป็นผู้ชาย 44.4% และผู้หญิง 26.7% ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่นอกเขตเทศบาลมีการทำงานในสัดส่วนสูงกว่าในเขตเทศบาล หากจําแนกเป็นภูมิภาค พบว่า ภาคใต้มีสัดส่วนสูงที่สุด ขณะที่กรุงเทพมหานครมีสัดส่วนที่ต่ำที่สุด

ส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจส่วนตัว โดยไม่มีลูกจ้าง 64.8% และช่วยธุรกิจครัวเรือน โดยไม่ได้รับค่าจ้าง 18.8% โดยส่วนใหญ่ทำงานในภาคเกษตรกรรม รองลงมาคือภาคการบริการและการค้า

ทั้งนี้ กลุ่มผู้สูงอายุที่ยังคงทำงานอยู่มีมากถึง 47.3% เนื่องจากสุขภาพยังแข็งแรง/ยังมีแรงทำงาน อีก 44.6% ต้องการหา รายได้เพิ่มเพื่อเลี้ยงครอบครัวหรือตนเอง

เมื่อพิจารณาจากข้อจำกัดด้านการทำงานของผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปพบว่ามีข้อจำกัดในการทำกิจกรรมต่างๆอาทิการนั่งยองการเดิน 200-300 เมตร การยกสิ่งของประมาณ 5 กิโลกรัม มากถึง 24% ในเพศชาย และ 41% ในเพศหญิง

อีกทั้งจำนวนหนึ่งยังมีปัญหาในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน เช่น การรับประทานอาหาร การใช้ห้องน้ำ การแต่งตัว การลุกขึ้นจากท่านอน และปัญหาการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันซับซ้อน ได้แก่ การนับเลข การขึ้นรถบัส และการกินยา สาเหตุเหล่านี้อาจส่งผลให้ผู้สูงอายุที่ต้องการทำงานบางส่วนไม่สามารถทำได้

พร้อมกันนี้ยังพบว่า ในปี 2562 มีผู้สูงอายุประมาณ 628,800 คน ที่มีภาวะสมองเสื่อม (เพศชาย 186,040 คน และเพศหญิง 442,760 คน) นอกจากนี้ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ยังมีความเปราะบางเรื่องระบบการดูแล โดย 49.8% อาศัยกับคู่สมรส 25.8% อาศัยอยู่ในครัวเรือนข้ามรุ่น และ 23.2% ต้องอาศัยอยู่ตามลำพัง

ผู้สูงอายุจำนวนมากมีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน

จากการสำรวจผู้สูงอายุในปี 2564 พบว่า มีผู้สูงอายุที่มีรายได้ ต่ำากว่าเส้นยากจนถึง 34% หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของผู้สูงอายุทั้งหมด ซึ่งแหล่งรายได้ในการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มาจากการทำงาน 32.4% จากบุตร 32.2% และ เบี้ยยังชีพ 19.2%

นอกจากนี้ ผู้สูงอายุประมาณ 41.4% มีเงินออมต่ำกว่า 50,000 บาท และมีแนวโน้มอยู่คนเดียวตามลำพังเพิ่มขึ้นจาก 8% ในปี 2557 เป็น 12% ในปี 2564 และอยู่ตามลำพังกับคู่สมรสเพิ่มขึ้นจาก 20.6% เป็น 21.1% อีกทั้ง หากจำแนกกลุ่มผู้สูงอายุตามรายได้ต่อปี พบว่า มากกว่า 78.3% มีรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อปี

ต้องเก็บเงินถึง 4.3 ล้าน ถึงจะอยู่รอด

จากรายงานเรื่องการเตรียมความพร้อมด้านการเงินและสุขภาพในสังคมอายุยืนของ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ระบุว่า คนรายได้ปานกลางอาศัยในเขตเมืองจะต้องเก็บออมเงินประมาณ 4.3 ล้านบาท เมื่ออายุ 60 ปี ถึงจะมีเงินเพียงพอใช้จ่ายจนถึงอายุ 100 ปี

ส่วนคนรายได้ปานกลาง ที่อาศัยในเขตชนบทจะต้องมีเงินออมประมาณ 2.8 ล้านบาท ซึ่งจากข้อมูลการสํารวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน ในปี 2562 พบว่า มีครัวเรือนเพียง 1.2 แสนครัวเรือนเท่านั้น ที่มีรายได้สูงกว่า 2.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.5% ของครัวเรือนทั้งประเทศ

โดยสรุป จะเห็นได้ว่า แม้ที่ผ่านมาจะมีความพยายามจากหลาย ภาคส่วนในการดำาเนินการ เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านโครงสร้างประชากร แต่จากสถานการณ์ในปัจจุบันและการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า ยังมีช่องว่างการดำเนินการหลายประเด็นที่ยังต้องจัดการ

ประกอบกับในช่วงระยะเวลาต่อไป อัตราการสูงวัยของประเทศไทยจะมีแนวโน้มสูงขึ้น มีผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่คุณภาพของประชากรและการยกระดับคุณภาพประชากรในช่วงที่ผ่านมายังไม่เห็นผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม

ดังนั้นการปรับกลยุทธ์และเพิ่มความเข้มข้นการดำเนินการ จึงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการต่อไป

News Related
  • สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน

    Courtesy of ByteDance https://assets.beartai.com/uploads/speaker/post-1334883.mp3?cb=1701136108.mp3 สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า ByteDance บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยมอย่าง TikTok สั่งปลดพนักงานในแผนกเกมออกราว 1,000 คน พร้อมยกเลิกการพัฒนาเกมที่ยังไม่ได้เปิดตัวทั้งหมด และเตรียมขายเกมที่มีอยู่ในปัจจุบันให้บริษัทอื่นด้วย แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ByteDance มองว่าธุรกิจเกมไม่ได้สำคัญมากนักและมีโอกาสที่จำกัดในการสร้างรายได้ บริษัทจึงเลือกที่จะทุ่มเทกับธุรกิจหลักมากกว่า เช่น TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่พ่วงมากับอีคอมเมิร์ซ ซึ่งกำลังประสบความสำเร็จอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งนี้ ByteDance เคยมีความทะเยอทะยานอย่างมากกับธุรกิจเกม และต้องการต่อกรกับยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent Holdings บริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อพิจารณาจากรายได้ โดย ByteDance ได้ลงทุนอย่างจริงจังในธุรกิจเกมมาตั้งแต่ปี 2016 และในระหว่างปี 2019 ถึงปี 2022 พวกเขาทุ่มเงินมากถึง 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 151,200 ล้านบาท เพื่อลงทุนในบริษัทเกมมากกว่า 19 แห่ง ความทะเยอทะยานของ ByteDance ค่อย ๆ ลดลงจากผลงานที่น่าผิดหวัง ...
    See Details: สู้ไม่ไหว! ByteDance ปิดบริษัทลูก Nuverse พร้อมปลดพนักงาน 1,000 คน
  • สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก

    สุภโชค สารชาติ เจลีก ลีกฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขัน เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 ได้ประกาศโปรแกรมการแข่งขันในปีนี้ออกมาแล้ว สำหรับปีนี้จะใช้ชื่อเต็มว่า ไทยประกันชีวิต เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 พาวเวอร์ดบาย เมจิ ยาสึดะ หลังได้ ไทยประกันชีวิต เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักอีกทั้งยังได้เซ็นข้อตกลงกับบริษัท นิคอน คอร์เปอเรชั่น ในฐานะ “บรอนซ์ พาร์ทเนอร์” ด้วย เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2023/24 จะมี 4 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันประกอบด้วย 2 ทีมไทยลีก เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ส่วนทีมจากเจลีก ประกอบด้วย ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร และ เซเรโซ ...
    See Details: สุภโชคเยือนกิเลนฯ ! เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ เผยโปรแกรมหวดทีมไทยลีก
  • ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4

    ภาพประกอบข่าว ครม. เคาะกฎกระทรวงขยายเวลาให้สถานบริการที่ตั้งในโรงแรมถูกกฎหมาย สถานบริการที่ตั้งใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย ได้ถึง 4.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 พ.ย. 2566 ได้อนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่….) พ.ศ… ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงฯ จะกำหนดให้สถานบริการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ดังต่อไปนี้เปิดให้บริการได้ถึงเวลา 4.00 น. ของวันรุ่งขึ้นได้ ได้แก่ สถานบริการที่ตั้งที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม, สถานบริการที่ตั้งอยู่ในท้องที่กรุงเทพมหานคร, จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดชลบุรี, จังหวัดเชียงใหม่ และท้องที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาพประกอบข่าว สำหรับท้องที่อื่นที่ประสงค์จะให้สถานบริการเปิดทำการได้ถึง 4.00 ...
    See Details: ครม.ไฟเขียว 5 จังหวัด เปิดสถานบริการในโรงแรมได้ถึงตี 4
  • อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา

    Elon_Musk_Plan_City_Cover https://assets.beartai.com/uploads/speaker/post-1334745.mp3?cb=1701136565.mp3 วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน อิสราเอลได้ต้อนรับการมาเยือนของ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ในระหว่างที่หยุดทำสงครามกับฮามาสเป็นการชั่วคราว ซึ่งได้บรรลุข้อตกลงในหลักการสำหรับการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ในฉนวนกาซา หลังจากมัสก์รับปากว่าจะให้การช่วยเหลือการเชื่อมต่อเน็ตในฉนวนกาซาผ่าน “องค์กรช่วยเหลือที่สากลยอมรับ” ในช่วงที่อิสราเอลเริ่มถล่มฉนวนกาซาอย่างหนักจนการสื่อสารถูกตัดขาดลง ช่วงบ่ายของวันจันทร์ ไอแซค เฮอร์ซอก (Isaac Herzog) ประธานาธิบดีของอิสราเอลมีกำหนดจะพูดคุยกับมัสก์ และพวกเขาจะเข้าร่วมพูดคุยกับญาติของตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาจับตัวไว้ เพื่อหาทางต่อสู้กับการต่อต้านชาวยิวที่เพิ่มขึ้นบนโลกออนไลน์ ในวันเดียวกัน เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล มีกำหนดหารือกับมัสก์เกี่ยวกับความปลอดภัยของเอไอ และจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันผ่านการถ่ายทอดสดออนไลน์ หลังจากทั้งสองพึ่งพบกันล่าสุดในแคลิฟอร์เนียเมื่อ 18 กันยายน เกี่ยวกับการต่อต้านชาวยิวบนแพลตฟอร์ม X และหาจุดสมดุลของเสรีภาพในการแสดงออก ปลายเดือนตุลาคม ช่วงที่มัสก์เผยว่าจะมอบเน็ตสตาร์ลิงก์ให้ใช้งานในฉนวนกาซา ชโลโม คาร์ฮี (Shlomo Karhi) กสทช. ของอิสราเอลได้แสดงความไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ากลุ่มฮามาสจะนำเน็ตไปใช้ในการก่อการร้าย แต่การพูดคุยล่าสุดเน็ตสตาร์ลิงก์จะถูกใช้ในอิสราเอลเฉพาะเมื่อได้รับอนุมัติจากกระทรวงคมนาคมของอิสราเอล ซึ่งรวมถึงในฉนวนกาซาด้วย ...
    See Details: อิสราเอลต้อนรับการมาเยือนของ Elon Musk หารือการใช้เน็ต Starlink ในฉนวนกาซา
  • 'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ

    ‘ไบท์แดนซ์’ จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก ‘เทนเซ็นต์’ ไม่สำเร็จ สำนักข่าวบลูมเบิร์กอ้างอิงแหล่งข่าวเผยว่า ไบท์แดนซ์ บริษัทแม่ติ๊กต็อกวางแผนปลดพนักงานฝ่ายเกมมิงและยุบธุรกิจพัฒนาเกมที่เป็นหน้าเป็นหน้าของบริษัทอย่าง Nuverse ถือเป็นการถอนตัวออกจากอุตสาหกรรมเกมครั้งใหญ่ ยกชัยชนะให้กับคู่แข่งอย่างเทนเซ็นต์ทันที แหล่งข่าวระบุว่า ไบท์แดนซ์ เตรียมปลดพนักงานหลายร้อยคน รวมทั้งยุบหลายโครงการที่กำลังพัฒนาและฉุดศักยภาพยอดขายของธุรกิจที่มีอยู่ ตามที่รอยเตอร์เคยรายงานหน้านี้ บริษัทยังพิจารณาขายเซี่ยงไฮ้ มูนตัน เทคโนโลยี สตูดิโอพัฒนาวิดีโอเกมชั้นนำที่ซื้อมาด้วยมูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์ (1.4 แสนบาท) เมื่อปี 2564 ด้วย การสร้างเกม ถือเป็นธุรกิจที่มีความไม่แน่นอนเป็นอย่างมาก โดยนับตั้งแต่ปีก่อน ไบท์แดนซ์เริ่มปิดสตูดิโอของตนเองและปลอดพนักงานฝ่ายพัฒนาหลายคน หลังเปลี่ยนไปโฟกัสธุรกิจหลักอย่างติ๊กต็อก แพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ๆ และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และเดือนนี้ก็ปลดพนักงานเกือบ 1 ใน 4 ของฝ่ายพิโค (Pico) ธุรกิจอุปกรณ์โลกเสมือน ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ภาคธุรกิจเกมในโทรศัพท์มือถือของจีน ประสบปัญหาฟื้นธุรกิจให้ถึงจุดสูงสุดเหมือนช่วงโควิด-19 ในขณะที่เศรษฐกิจโลกชอละตัว ไบท์แดนซ์จึงค่อย ๆ ลดความทะเยอทะยานในอุตสาหกรรมเกม เมื่อไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเทนเซ็นต์ได้ ในทางกลับกันผู้นำอุตสาหกรรมเกมอย่างเทนเซ็นต์ ยังคงรักษาการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน เพราะได้รับแรงหนุนจากเครดิตผู้นำอุตสาหกรรม ...
    See Details: 'ไบท์แดนซ์' จ่อยุบธุรกิจเกม หลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก 'เทนเซ็นต์' ไม่สำเร็จ
  • TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น

    ภาพประกอบข่าว TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ชี้เศรษฐกิจโลกปี 2567 จะโตแบบชะลอตัวเมื่อเทียบกับปี 2566 ผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดในรอบหลายทศวรรษ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยยังทรงตัวในระดับสูง แต่ไม่เลวร้ายถึงขั้น “เศรษฐกิจถดถอย”  แนะลงทุนพันธบัตรเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน 8-15% ช่วยกระจายความเสี่ยงและลดผลขาดทุนของพอร์ตโดยรวม นายธรรมรัตน์ กิตติสิริพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) (Mr.Thammarat Kittisiripat, Head of Economic Unit, TISCO Economic Strategy Unit) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2567 จะชะลอตัวลง อันเป็นผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่จะส่งผลกดดันต่อกิจกรรมเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ทั้งกิจกรรมด้านบริการและภาคการผลิต นอกจากนี้ ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลางต่างๆ และมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลดลงอย่างช้าๆ ทำให้ TISCO ESU ประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกในปี 2567 จะยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะธนาคารกลางจะต้องควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวแต่ยังให้น้ำหนักไม่มาก ที่จะเข้าสู่ “ภาวะถดถอย” โดยหากอ้างอิงจากการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มองว่าเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มที่ “พัฒนาแล้ว” จะชะลอตัวลงต่อเนื่อง ...
    See Details: TISCO ESU ฟันธง! เศรษฐกิจโลกปี 67 ชะลอตัว ชี้ ‘พันธบัตรโลก’ สร้างผลตอบแทน 8-15% ดีกว่าหุ้น
  • “นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน

    นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์  ผู้แทนการค้าไทย หารือผู้แทนสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ไทย และตัวแทนบริษัทส่งออกผลไม้ไทย เพื่อร่วมมือผลักดันการส่งออกโคและผลไม้ไทยไปจีน ผู้แทนการค้ากล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การส่งออกเดือน ต.ค.2566 มีมูลค่า 23,578.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8% เป็นบวกต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อกัน และสูงสุดในรอบ 13 เดือน นับจากเดือนก.ย.2565 ซึ่งการส่งออกที่เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร 9.3% โดยสินค้าเกษตร เพิ่ม 12.3% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 5.9% สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง อาหารสุนัขและแมว ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง สิ่งปรุงรสอาหาร ผักกระป๋องและผักแปรรูป ผู้แทนการค้ากล่าวว่า สินค้าเกษตรจึงเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของไทย จากการหารือกับสมาคมผู้ส่งออกฯ ที่ผ่านมาประเทศไทยติดปัญหาการส่งออกโคมีชีวิตไปยังประเทศจีน ซึ่งต้องให้ผ่านการรับรองจาก ...
    See Details: “นฤมล” ถกผู้ส่งออก-นำเข้าปศุสัตว์ -บริษัทส่งออกผลไม้ หวังดันไทย-จีน
  • มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: มองหลากมุม “นโยบายเงินช่วยให้เปล่า” กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: กยศ. แจงปมนักศึกษาพยาบาลไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ ยันคุณสมบัติครบได้ทุกคน
  • น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: น้ำผึ้ง ณัฐริกา สูญเสียครั้งใหญ่จนเป็นซึมเศร้า เคยไปดูศพเพื่อปลง (คลิป)
  • เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: เขินมาก”พัคมินยอง-คิมแจอุค”อวดโมเมนต์ชวนจิ้นผ่านไขหัวใจยัยแฟนเกิร์ล
  • กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: กวาง ขายเรือนหอ 16 ล้านได้แล้ว ขอบคุณที่ให้บทเรียนดีๆ ‘น้ำหวาน’ โผล่เมนต์ลา
  • SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: SHARGE เปลี่ยนชื่อแบรนด์ ตอกย้ำเบอร์ 1 ธุรกิจ EV Charger ครบวงจร
  • สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด

    หากนึกย้อนไปในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเจอผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้อุปสงค์หายไปอย่างกระทันหัน (Demand Shock) และเป็นต้นตอที่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นตามมา จึงทำให้เราเห็นมาตรการการคลังและการเงินมากหน้าหลายตาถูกงัดออกมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจขนานใหญ่ สอดคล้องกับ IMF ที่ประเมินว่าเม็ดเงินจากมาตรการสนับสนุนทางการคลัง (Fiscal Support) ที่ใช้ในปี 2020 รวมกันทั่วโลกอาจสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 13% ของจีดีพี ซึ่งมากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 ที่ใช้เม็ดเงินอัดฉีดไปเพียง 6.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 11% ของจีดีพี ณ ขณะนั้น “การอัดฉีดเงินเข้าภาคประชาชนโดยตรง” หรือ Helicopter Drop ก็เป็นหนึ่งในมาตรการยอดนิยมที่ 58 ประเทศทั่วโลกใช้ในวิกฤตระลอกล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกว่าเมื่อเทียบกับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการซื้อสินทรัพย์ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องส่งผ่านตัวกลางใด ๆ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าเครื่องมือทางการคลังอื่น โดยเฉพาะกับประเทศที่มีความพร้อมด้าน Payment Ecosystem ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงประเด็น อย่างไรก็ดี เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบดังกล่าวมักถูกใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตรุนแรงหรือช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพื่อให้เกิดการจับจ่ายเป็นวงกว้างและนำไปสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลาย ...
    See Details: สภาการพยาบาลออกประกาศ ห้ามให้ยาแก้ปวด Diclofenac ชนิดฉีด

OTHER NEWS

ถ้าไม่ไหวไปที่อื่น ! ไข่มุกหลงกล้อง-ทศกัณฐ์เดดแอร์ ศึกแข่งผู้ประกาศข่าวสุดเดือด!

ถ้าไม่ไหวไปที่อื่น ! ไข่มุกหลงกล้อง-ทศกัณฐ์เดดแอร์ ศึกแข่งผู้ประกาศข่าวสุดเดือด! รอบ Real Chance กับโจทย์ผู้ประกาศข่าวเที่ยงอมรินทร์ เดือดสุด !! เพราะเป็นรอบที่น้องๆ ทีมสีส้ม “ไข่มุก-ชาโอม-จอย” และทีมสีม่วง “ฟิว-ทศกัณฐ์-ปอนด์” ต้องมานั่งโต๊ะเป็นผู้ประกาศข่าวจริงๆ รอบ Real Chance กับโจทย์ผู้ประกาศข่าวเที่ยงอมรินทร์ ใน THE REAL NEXT GEN อมรินทร์เน็กซ์เจน Presented By est cola รายการเรียลลิตี้ ... Read more »

นายกฯ เผย ครม.เคาะขึ้นเงินเดือน ขรก.แล้ว รอฟังโฆษกแถลงได้เลย

ภาพประกอบข่าว นายกฯ เผย ครม.พิจารณาวาระขึ้นเงินเดือนแล้ว ให้โฆษก รบ.แถลง พร้อมเรียก รมต.เพื่อไทยถกต่อ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในวันนี้ที่ประชุม ครม.ได้มีการพิจารณาวาระการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ซึ่งมอบหมายให้โฆษกประจำสำนักนายกฯเป็นผู้แถลง ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังนายกฯเป็นประธานการประชุม ครม.ชุดใหญ่แล้ว นายกฯได้เชิญรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.) ... Read more »

ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ‘เด่นนาโพธิ์’ ตะลึงว่าจ้างตัวเอง ‘ล้มมวย’!

ภาพประกอบข่าว ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ‘เด่นนาโพธิ์’ ตะลึงว่าจ้างตัวเอง ‘ล้มมวย’! จากรกรณีที่ เด่นนาโพธิ์ ส.ธัญญาลักษณ์ นักมวยไทย ขึ้นชกกับ ก้องนภา ศรีมงคล เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ที่เวทีมวยวัดบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยการชกครั้งนี้ เด่นนาโพธิ์ แพ้น็อกไปอย่างกังขาในยกที่ 3 ทั้งที่ เด่นนาโพธิ์ เป็นฝ่ายฟันศอก ก้องนภา ... Read more »

พีพี วอนแฟนคลับไม่รุกล้ำเวลาส่วนตัว อยากเจอกันแบบสบายใจ

พีพี วอนแฟนคลับไม่รุกล้ำเวลาส่วนตัว อยากเจอกันแบบสบายใจ ก่อนแง้มข่าวดีกลางปีหน้า แม้ว่าก่อนหน้านี้ บริษัท PP Krit Entertainment ของศิลปินนักแสดงชื่อดัง พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ได้ออกหนังสือชี้แจงมาตรการด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของศิลปิน หลังมีบุคคลบางกลุ่มพยายามละเมิดความเป็นส่วนตัว แต่ดูเหมือนว่ายังคงมีหลายคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎดังกล่าว จนเป็นเหตุให้คนใกล้ชิดต้องออกมาพูดเตือนสติเรื่องนี้อีกครั้งผ่านทางโซเชียล ล่าสุดเจอ พีพี ในงาน centralwOrld Light Up Christmas Tree Celebration ที่ ลานสแควร์A หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ว่า ... Read more »

สมยศ เผยเซ็นสัญญา"อิชิอิ"คุมบอลไทยระยะสั้นแค่ช่วงวาระชุดบริหารปัจจุบัน

สมยศ เผยเซ็นสัญญา”อิชิอิ”คุมบอลไทยระยะสั้นแค่ช่วงวาระชุดบริหารปัจจุบัน จากกรณี “มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ประกาศอย่างเป็นทางการแยกทาง มาโน่ โพลกิ้ง จากหัวหน้าผู้ฝึกสอน หลังผลงานคัดบอลโลก 2 นัดแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชชาวญี่ปุ่น อดีตกุนซือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ แทนทันที ล่าสุด “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เผยว่าเรื่องการเลือกโค้ช เราให้เกียรติซึ่งกันและกัน มาดามแป้ง ... Read more »

ปุ้ย TPN อัปเดต มิสยูนิเวิร์ส 2023 หลังรัฐบาลนิการากัว สั่งห้ามเข้าประเทศ

หลังจากจบการประกวด Miss Universe 2023 แต่งานนี้ก็ยังมีเรื่องให้ ปุ้ย ปิยาภรณ์ หรือที่แฟนนางงามรู้จักในชื่อ ปุ้ย TPN ต้องมาชี้แจงหลายประเด็นที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่ Miss Universe คนล่าสุดเข้าประเทศไม่ได้ หรือประเด็นที่บริษัท TCG จะฟ้อง JKN ซึ่ง JKN เป็นบริษัทแม่ และ TPN เป็นบริษัทลูก จะโดนร่างแหไปด้วยหรือไม่ งานนี้เจ้าตัวก็ได้ตอบแบบเคลียร์ว่า “ข่าวที่ว่ามิสยูนิเวิร์สเขาเข้าประเทศไม่ได้น่ะเหรอ นี่ก็ได้คุยกับ ND ... Read more »

เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งแจ๊ซเมาพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ

เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งแจ๊ซเมาพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ เจ้าหน้าที่คุมประพฤติซิ่งรถแจ๊ซเมาหนักเดินเซขึ้นรถตำรวจ หลังจากพยายามขับรถพุ่งชนคู่กรณีจนรถพลิกคว่ำ แถมไม่สลดในมือยังถือกระป๋องเบียร์ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 น. ตำรวจ สน.ท่าพระ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ เฉี่ยวชนกันจนเกิดพลิกคว่ำ บริเวณอุโมงค์ท่าพระ มุ่งหน้าจาก ถนน จรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าถนน รัชดาท่าพระ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณเชิงลาดขาลงทางลอดอุโมงข้ามแยกใต้แยกท่าพระ ทิศทางมุ่งหน้ามาจากถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าไปทางถนน รัชดาท่าพระ แขวง วัดท่าพระ เขต บางกอกใหญ่ ... Read more »
Top List in the World